เอ็มจี เปิดตัว NEW MG ES สเตชันวากอนไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่
ยกระดับความสะดวกสบายกับสไตล์ที่เรียบหรูทันสมัยและอเนกประสงค์
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยเปิดตัวNEW MG ES สเตชันวากอนไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “COMFORTABLE เป็นทุกอย่างเพื่อทุกโมเมนต์”สานต่อความมุ่งมั่นในการนำเสนอยนตรกรรมคุณภาพที่ผสมผสานดีไซน์อันเรียบหรูดูล้ำสมัยในแบบฉบับ New Era Design พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางพร้อมฟังก์ชันสุดครบครัน ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ และความปลอดภัยเหนือชั้น เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เน้นไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายชูจุดขายในเรื่องดีไซน์ที่เรียบหรูทันสมัยพร้อมความสะดวกสบายและความอเนกประสงค์ที่มากยิ่งขึ้น
เอ็มจีย้ำภาพความเป็นผู้นำอีวีในไทย แนะนำรถไฟฟ้ารุ่นใหม่เสริมพอร์ตให้แข็งแกร่งและหลากหลายมากยิ่งขึ้นกับNEW MG ESรถสเตชันวากอนไฟฟ้า 100%ที่โดดเด่นด้วยพื้นที่กว้างขวางและฟังก์ชันที่เน้นความสะดวกสบาย กับประสบการณ์ใหม่ของการใช้รถไฟฟ้าที่ตอบสนองมากกว่าแค่การใช้งานทั่วไปแต่สามารถเติมเต็มทุกโจทย์ความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างได้อย่างลงตัว
NEW ERA DESIGN เรียบหรูดูล้ำสมัย แฝงไปด้วยฟังก์ชันที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
ชุดกันชนหน้าไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบLight Curtain Designยกระดับความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น เสริมการใช้งานมากขึ้นด้วยชุดราวหลังคา (Roof Rail) ที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม และด้วยรูปโฉมสไตล์สเตชันวากอน จึงมาพร้อมกับห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย ทั้งยังสามารถบรรจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,367 ลิตร ตกแต่งภายในด้วยเส้นสายโทนสีฟ้า ENERGETIC BLUE STRIPให้ภายในหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมเบาะนั่งวัสดุหุ้มหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGNให้ผิวสัมผัสคล้ายยีนส์ ปรับลุคให้ดูมีความทันสมัยและดูแลรักษาง่ายชุดเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ ยกขอบปีกข้าง พร้อมเทคโนโลยี Zero-G Seatsกระจายน้ำหนักและรองรับสรีระของผู้นั่งให้ดียิ่งขึ้น เดินทางระยะไกลได้สบาย
E- PERFORMANCE: สเตชันวากอนอีวีแนวใหม่กับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและเหนือระดับ
เต็มที่ในทุกการเดินทางด้วยนวัตกรรมรถไฟฟ้าใหม่NEW MG ESมาพร้อมแพลตฟอร์มระบบส่งกำลังใหม่ล่าสุด ที่มีขนาดและน้ำหนักลดลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 53%ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUSMOTOR (PMSM) ให้พละกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ซึ่งมอเตอร์แบบใหม่นี้ให้การตอบสนองที่ดีขึ้น โดยสามารถปรับเร่งรอบได้สูงถึง 15,000 รอบ/นาที ทำให้ NEW MG ESสามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง เสริมสร้างประสบการณ์การขับขี่ไปอีกระดับด้วยระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ถึง 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย เข้าโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพกับรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.95 เมตร
NEW MG ESมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 51 kWhมีการปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงถึง 22%และระบบ Liquid Cooling Systemช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพให้สมรรถนะในการขับเคลื่อนได้ไกลถึง 412 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC (NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE)รองรับการชาร์จทั้งแบบ Quick Chargeจาก 0% – 80% ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ที่ความเร็วสูงสุด 87 kW และ Normal Chargeรองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kW ใช้เวลาการชาร์จจาก 0% – 100% 7 ชั่วโมง 15 นาทีผ่าน MG HOME CHARGER ที่ 6.6 kW อีกทั้งยังรองรับระบบ V2L (Vehicle to Load)เปลี่ยนรถไฟฟ้าให้เป็นแหล่งจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์
SAFETY: ปลอดภัยและอุ่นใจ…สบายใจทุกการเดินทาง
มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM และระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS)รวม20 ระบบ อาทิ ระบบควบคุมเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยางTPMS (Tire Pressure Monitor System) เป็นต้น นอกจากนี้ NEW MG ESยังมาพร้อมกับระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMARTในรูปแบบ Lite versionที่เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและรับการแจ้งเตือนสำคัญของรถเอ็มจีของตัวเองได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์ ระบบสั่งการกุญแจดิจิตอลระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน Emergency Call หรือ ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE เป็นต้น
NEW MG ESมาพร้อมกับสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Andes Gray) สีแดง (Scarlet Red) และสีเงิน (Champagne Silver) และตกแต่งภายในสไตล์ทูโทนพร้อมหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “เอ็มจี มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอ NEW MG ESในฐานะ “รถรุ่นใหม่” ของครอบครัว ด้วยจุดเด่นมากมายและการผสานการใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยในการขับขี่เข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับรถเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบายและง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดย NEW MG ESมาพร้อมแนวคิด “COMFORTABLE”คือ สเตชันวากอนอีวีแนวใหม่กับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและเหนือระดับ มาพร้อมกับสไตล์การออกแบบที่เรียบหรูแต่ดูล้ำสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ ถือเป็นนิยามใหม่ของความพรีเมียมที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของรถรุ่นนี้ เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มี Modern Lifestyle ที่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในบ้านเดียวกันเท่านั้น ยังรวมไปถึงความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนและคนสนิท ที่เน้นการมีไลฟ์สไตล์ในรูปแบบที่หลากหลายร่วมกัน โดย NEW MG ES ถือเป็นส่วนหนึ่งในทุกๆ โมเม้นต์สำคัญของการใช้ชีวิตของกลุ่มคนเหล่านี้
NEW MG ESจะมีกำหนดการทยอยส่งมอบให้ถึงมือลูกค้าภายในเดือนเมษายนนี้ เป็นต้นไปทั้งนี้ ในฐานะผู้บุกเบิกและผู้นำตลาดรถไฟฟ้าในไทย ไม่เพียงนำเสนอยนตรกรรมที่มีความก้าวล้ำทางด้านสมรรถนะและผสมผสานเข้ากับดีไซน์ที่เรียบหรูแต่ครบครันไปด้วยฟังก์ชันที่ใช้ได้จริงแล้ว เอ็มจี ยังเดินหน้าขยายระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ECOSYSTEM ให้ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมอีวีอย่างแท้จริง ทั้งการตั้งเป้าหมายการขยายสถานีชาร์จเร็ว หรือ MG SUPER CHARGE STATION ในโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ ให้ลูกค้าสามารถใช้งานรถไฟฟ้าได้อย่างสะดวกสบายทั่วประเทศ โดยทุกๆ 150 กิโลเมตร จะมีสถานีชาร์จอย่างน้อย 1 สถานีให้บริการอีกทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตรในการเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จแบบไวในพื้นที่ต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น รวมถึงการให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายในการดูแลและบำรุงรักษารถไฟฟ้าโดยช่างผู้ชำนาญงานในทุกศูนย์บริการเอ็มจี เพื่อทำให้คนไทยมั่นใจในการใช้รถไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่
Website: www.mgcars.com
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand
Application: MG Thailand