THE NEW SUBARU FORESTER
Is there Anything You Can’t Do?”

CH1_2300

การเจอกันระหว่างผมกับเจ้า NEW SUBARU  FORESTER ในรอบนี้นับว่าเป็นครั้งที่2-3 ครั้งแล้ว ซึ่งครั้งแรกมีการทดสอบแบบเต็มเหนี่ยว ตาม Station ที่ถูกเตรียมไว้ ในสถานที่จำลองพื้นถนน เพื่อทดสอบระบบขับเคลื่อนต่างๆ ในรถคันนี้ แต่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นทริปการทดสอบยาวๆ ในถนนดำ ได้กดคันเร่ง ได้ซัดกันเต็มๆ และสามารถบอกได้ถึงอาการรถต่างๆ ตลอดเส้นทางการเดินทางในรอบนี้

CH1_2269 CH1_2333

ซึ่งในทริปนี้ทาง SUBARU จัดเป็นการทดสอบสบายๆ ในสื่อสายรถยนต์ทั่วไป เส้นทางกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี ระยะทางรวมไป-กลับก็ประมาณ 400 กว่ากิโลฯ แน่นอนว่ารถทั้งหมดก็เป็นเจ้า FORESTER AWD 2.0I-P นั่นเอง ก่อนจะไปถึงเรื่องราวการทดสอบเรามาย้ำกันที่ตัวรถอีกสักครั้งนึง สำหรับ NEW SUBARU FORESTER นี้ จัดว่าเป็น SUV แท้ๆ เต็มตัว (CKD) ทั้งโครงสร้างและพื้นฐานที่ทาง SUBARU เองนั้นหมายมั่นปั้นมือในรถตัวนี้อยู่ระดับหนึ่ง เพราะถ้าเอ่ยชื่อถึงคำว่า SUBARU คนทั่วไปจะต้องนึกถึง 2 อย่างหลักๆ คือ เครื่องยนต์ Boxer กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั่นเอง ซูบารุตัวนี้เหมาะสมหรับคนที่ชอบลุย ชอบผจญภัยต่างๆ ในทางที่กำลังดี ไม่ใช่ลุยได้ขนาด Off Road แต่สามารถเดินทางได้ในที่รถปกติเดินทางลำบากหรือไม่สะดวกนั่นเอง

CH1_2358 CH1_2429

สำหรับทริปนี้เราเริ่มจากฐานบัญชาการแถวถนนเสรีไทย มุ่งหน้าทางด่วนเพื่อมาตัดเข้าถนนแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าข้ามสะพานพระราม4 แล้ววิ่งเข้าถนนไทรน้อย  บางเลน และจบทริปที่กาญจนบุรี ตลอดเส้นทางการขับขี่ในถนนดำ ก็พอที่จะสรุปให้ฟังได้พอสมควร ซึ่งตัวที่ผมขับขี่นั้นจะเป็นรุ่นของ 2.0i-P ซึ่งโดยรวมแล้วจะเหมือนรุ่น 2.0i ในเรื่องหลักๆ เช่นเครื่องยนต์ช่วงล่างและระบบขับเคลื่อน แต่แตกต่างกันแค่ฟังก์ชั่นนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น เรามาลุยกับตัว 2.0i-P กันเลยดีกว่า ตัวนี้นะครับ มิติของตัวรถอยู่ที่ ความยาว 4,595 มม. ความกว้าง 1,795 มม. ความสูง 1,735 มม. จุดเด่นภายนอกนั้นคงจะไม่ขอเอ่ยเรื่องรูปร่างและการออกแบบนะครับ เพราะน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นแบบไหน แต่จะเน้นที่ระบบต่างๆ ของตัวรถล่ะกัน ในรุ่นนี่จะมีระบบไฟหน้าปรับตามทิศทางการเลี้ยวของตัวรถ (SRH) เมื่อเปิดใช้ในเวลากลางคืนไฟหน้าจะหันตามการหมุนพวงมาลัย และมีไฟตัดหมอกหน้าในรุ่นนี้ พร้อมที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติแบบมีเซ็นเซอร์ตรวจจับหยดน้ำฝน พร้อมที่ฉีดน้ำล้างไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็วแบบคงที่ cruise control และมีปุ่มสำหรับการปรับพับเบาะหลังแบบ One Touch ให้เป็นแบบ 60/40 ส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone ที่สามารถแยกอุณหภูมิสำหรับคนขับและคนนั่งให้ต่างกันตามที่ต้องการ เพิ่มการมองเห็นด้วยกล้องมองหลังเมื่อคนขับเปลี่ยนเป็นเกียร์ถอยหลัง และหน้าจออเนกประสงค์ที่แสดงข้อมูลของรถในการเดินทางทั้งหมด

DSC_4635 DSC_4708 DSC_4675

ในเรื่องของการขับขี่แบบถนนเรียบก็ถือว่าเป็นรถที่มีการขับที่สนุกและมั่นใจพอสมควรด้วยลักษณะของช่วงล่างและระบบกันสะเทือนที่ออกแบบมาทันสมัย โดยด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson Struts ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Double Wishbone จึงให้การตอบสนองที่ค่อนข้างไวในการขับทุกรูปแบบ และมีการปรับตั้งค่าสปริงและช็อคฯ ให้สามารถใช้งานได้ดีทังทางเรียบและทางขรุขระ เพราะใช้ความเร็วในแต่ล่ะโค้งตัวรถยังคงนิ่งไม่ออกอาการลอยหรือลื่นแต่อย่างใด เต็มที่ก็เป็นเรื่องของหน้ายางกับพื้นถนนที่ไม่เรียบ ซึ่งผมประทับใจกับช่วงล่างของรถคันนี้มากทีเดียว ระบบเบรกนั้นก็เป็นแบบดิสเบรกทั้งสี่ล้อพร้อมกับระบบ ABS ที่ทำงานร่วมกัน ซึ่งก็ไม่มีปัญหากับการควบคุมรถคันนี้ให้หยุดได้ตามที่เราต้องการ

DSC_4631

NEW SUBARU FORESTER ในรุ่น 2.0i และ 2.0i-P มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Boxer ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาวล์ รุ่น FB 20 เพื่อสร้างพลังการขับเคลื่อนออกมาถึง 150 แรงม้า (PS)  ที่ 6,200 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดอยู่ที่ 198 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที และมีประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงขั้นที่ระดับ 8.2 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่ง SUV คันนี้มีการใช้เครื่องยนต์แบบ Boxer ซึ่งจะเป็นโครงสร้างลูกสูบแบบแนวนอนและตำแหน่งลูกสูบทำมุมแบบ 180 องศา ทำให้เครื่องยนต์มีรูปทรงที่ตื้นและสั้นกว่าเครื่องยนต์ชนิดอื่นๆ ดังนั้นเครื่องยนต์จึงมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและทำให้สมดุลมากยิ่งขึ้น และผสมกับการเคลื่อนที่สวนกันของลูกสูบทำให้สามารถลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ตามด้วยเช่นกัน จากการวางเครื่องยนต์ในห้องเครื่องถูกออกแบบให้ต่ำลงมาก ทำให้ตัวเองนั้นมีการทรงตัวในทางโค้งที่ดีและลดอาการโคลงของตัวรถด้วยเช่นกัน หลายๆ เหตุผลที่ประกอบกันทำให้สมารถขับได้สนุกในทางเรียบได้สบายๆ

GPF_6077 GPF_6112

ในช่วงบ่ายก่อนที่จะเข้าที่พัก เราได้ปรับรูปแบบการทดสอบนิดหน่อย เพื่อทดสอบระบบขับเคลื่อน AWD และอยากลองกดปุ่ม X-MODE กันดูบ้าง เราจึงหันหัวรถเข้าป่าแห้งลัดเลาะไปตามตีนเขา เพื่อสัมผัสพื้นถนนแบบไม่อำนวยสำหรับรถทั่วไป หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจ X-MODE คืออะไร ตอบง่ายๆ ได้เลยว่า X-MODE คือปุ่มอัจฉริยะพิเศษที่ทำให้การขับขี่ในทางแย่ๆ ขรุขระ ทางลื่น โคลน ดินเหนียว พื้นทราย ต่างๆ เหล่านี้ สามารถทำให้เราขับรถคันนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวล เพียงแค่เราจับพวงมาลัยบังคับอย่างเดียวก็พอ เพราะ X-MODE จะควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ ระบบขับ 4 ล้อ และเบรก ให้สามารถผ่านเส้นทางที่ยากหรือพื้นถนนลื่นๆ ไปได้อย่าสบาย ทั้งทางลาดชัน เนินลงเขาสูงๆ มีการถ่ายเทกำลังทั้งสี่ล้อแบบอัตโนมัติ จากที่ลองดูแล้วต้องบอกว่าใช้ X-MODE แล้วขับง่ายจริงๆ ครับ ตัวอย่างที่เป็นทางแบบเนินสลับและทางลาดหรือพื้นกรวดลื่น เราไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินคันเร่งมากหรือน้อยเกินไป ล้อหน้าหรือหลังที่ไม่ติดพื้นระบบก็จะคำนวณแล้วส่งกำลังไปยังที่ล้อสามารถผ่านไปได้ ระบบจะทำทุกอย่างให้ครบทีเดียว ซึ่ง X-MODE นี้จะมีการทำงานในความเร็วที่ไม่เกิน 40 กม/ชม. เท่านั้น

20160510_134805 20160510_132312 20160510_132408

สำหรับเกียร์ที่ใช้ใน SUBARU FORESTER คันนี้นั้นเป็นแบบ LINEARTRONIC CVT คือเป็นเกียร์แบบแปรผันอัตราทดต่อเนื่อง ซึ่งใช้โซ่แทนสายพาน ส่งผลทำให้มีช่วงอัตราทดของเกียร์ที่กว้างขึ้น ตอบสนองฉับไวกว่าเดิมพร้อมระบบขับสี่ล้อกระจายแรงบิดในแนวยาว ซึ่งระบบขับสี่ล้อกระจายแรงบิดจะตอบสนองการฉุดของเกียร์และการขับของผู้ขับ โดยควบคุมการกระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลังอยู่ตลอดเวลา โดยเกียร์ระบบ SI-DRIVE นั้นจะแบ่งเป็นสองโหมดหลักๆ คือ โหมด S ซึ่งจะมีการขับขี่แบบสปอร์ต คล่องตัวและใช้กำลังเต็มที่กับโหมดนี้ และโหมด I ซึ่งเป็นการขับขี่แบบปกติ ราบรื่น และขับขี่ใช้งานทั่วไป

GPF_6154

ทริปนี้ก็ถือว่าพวกเราย้ำความคุ้นเคยกับเจ้า NEW SUBARU FORESTER กันอีกครั้งในรูปแบบสบายๆ เดินทางแบบคาราวาน ทดสอบแบบท่องเที่ยวไปในตัว สำหรับผมมองว่ารถคันนี้มีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร เป็นรถที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงๆ แต่ไม่ได้ใช้ลุยงานหนักมากมาย แต่ไปได้ทุกทีในสไตล์คนที่ชอบท่องเที่ยวแนวแอดเวนเจอร์ ใส่ชอบสัมภาระมากมาย เช่นปั่นจักรยาน  ท่องป่า  ปีนเขา  กิจกรรมทางน้ำ ก็เหมาะสมดี และไม่ต้องการรถที่มีเทคโนโลยีมากมายซ้ำซ้อน และที่สำคัญต้องเป็นคนที่รู้จัก SUBARU อยู่พอสมควร หรือไม่ก็เปิดใจอยากลองของใหม่กับรถ SUV ขับ 4 ขนานแท้จากค่ายดาวลูกไก่ ในนามว่า FORESTER คันนี้…

ขอขอบคุณบริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัดและทีมงานทุกคนที่ได้ให้เกียรติทาง GT-R MAXx ได้ร่วมสัมผัสการเดินทางทดสอบ New Subaru Forester ในทริปนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

ราคา New Subaru Forester

  • FORESTER 2.0i            ราคา   1,198,000  ฿
  • FORESTER 2.0i –P      ราคา   1,398,000  ฿
  • FORESTER 2.0XT        ราคา   2,290,000  ฿  

 

IMAGE GALLERY

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

คุณอาจจะใช้ป้ายกำกับและคุณสมบัติ HTML เหล่านี้ได้: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>